ปัญหาหนึ่งที่เจอบ่อย ๆ หลังมีเซ็กซ์ คือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) พบได้บ่อยจนมีชื่อเรียกเล่น ๆ ของวงการแพทย์ว่า Honeymoon cystitis เลยทีเดียว หลายคนอาจจะสงสัยว่าเวลามีเซ็กซ์ก็จิ้มที่รูช่องคลอด (หรือรูก้น) แต่ทำไมมาติดเชื้อที่รูปัสสาวะได้ ลองไปอ่านกันนะ
“สาเหตุ”
มีเชื้อโรคเข้าไปในรูปัสสาวะเลยเกิดการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะขึ้นมา เพราะรูมันเรียงอยู่ใกล้ ๆ กัน เวลาตอนจิ้มเข้าจิ้มออกที่รูช่องคลอดหรือรูก้น รูปัสสาวะก็ขยับตามการเคลื่อนไหวไปด้วย พอเอาอะไรไปป้วนเปี้ยนแถวนั้น มันก็มีโอกาสเอาเชื้อแถว ๆ นั้นมาแปะป้ายที่อื่นไปทั่ว ก็เลยเสี่ยงในการติดเชื้อโรคง่ายขึ้น
“อาการ”
ปัสสาวะแสบขัด บางคนก็รู้สึกแสบร้อนตามการไหลของน้องฉี่ที่ออกมา อาจจะมีการปัสสาวะบ่อยหรือเบ่งไม่ค่อยออกบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นแสบขัดเวลาเบ่งปัสสาวะ แต่ถ้าแสบขัด แสบร้อน ตลอดเวลาที่จิ๋ม โดยไม่ได้เป็นเฉพาะเวลาเบ่งน้องฉี่ หรือมีอาการคันยุกยิก แบบนี้น่าจะเป็นพวกติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มากกว่า อย่าสับสนกันนะ
“ป้องกัน”
สิ่งสำคัญคือการป้องกัน ถ้ารักษาความสะอาดดี ดูแลน้องดี โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก็ลดลง ทำได้ตามนี้
1 ล้างจิ๋มภายนอกให้ดีก่อนมีเซ็กซ์ ทางที่ดีควรปัสสาวะทิ้งไปก่อนด้วย
2 เวลาอึก็ควรล้างก้นให้ดี จะได้ไม่มีเชื้อโรคสะสมแถวก้น แล้วถูกป้ายมาติดรูอื่นได้
3 เวลาเช็ดจิ๋ม เช็ดจากหน้าไปหลังเท่านั้น อย่าลากจากก้นมาจิ๋ม
4 หลังมีเซ็กซ์ อย่าเพิ่งนอนหลับสลบไป ลุกขึ้นมาปัสสาวะ และล้างจิ๋มก่อน
“รักษา”
ถ้ามีอาการไปแล้ว ให้กินน้ำบ่อย ๆ มาก ๆ และอย่าอั้นปัสสาวะ บางคนจะไม่ค่อยยอมกินน้ำ เพราะกลัวกินน้ำแล้วต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ต้องเจออาการแสบขัดบ่อย ๆ แต่การทำแบบนี้มันทำให้อาการแย่ลงนะ
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ไม่ควรปล่อยไว้ ควรไปหาหมอ เพื่อให้ได้รับการประเมินและได้ยารักษาที่ถูกต้อง ในบางคนที่เป็นบ่อยมาก ๆ อาจจะต้องตรวจเพิ่มเติมว่ามีโรคอะไรแอบซ่อนอยู่รึเปล่า
หลังมีเซ็กซ์ อย่าเพิ่งรีบร้อนสลบเหมือดด้วยความเหนื่อยล้า จูงมือพากันไปเข้าห้องน้ำล้างน้อง ปัสสาวะสักเล็กน้อย แล้วจะได้ตื่นเช้ามาอย่างสดใส ไม่แสบร้อน
เพจน้องสาว