ตามแนวทางการตรวจสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับล่าสุด กำหนดไว้ว่า “ผู้มีมดลูกท่านใดผู้มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี“ เป็นคำแนะนำตามตำรา แต่ในทางปฏิบัติ หมอเราจะพิจารณาตามความเสี่ยงแต่ละคนจ้า เอาเป็นว่าอย่างช้า อายุเกิน 30 ไปแล้วก็มาสักทีเถอะ
และในทางปฏิบัติของมุมคนไข้ หลาย ๆ คนมักจะลังเลที่จะมาตรวจภายใน เพราะอาย กลัวเจ็บ ไม่มีเวลา บลาบลาบลา อย่างที่เคยชวนคุยในโพสที่แล้ว แต่อีกเรื่องก็คือ ความคิดที่ว่า “ชั้นไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย ชั้นไม่เสี่ยง ไม่จำเป็นต้องตรวจย่ะ”
หลาย ๆ คน มีความคิดแบบนี้ ซึ่งมันเป็นความคิดที่ยังไม่ถูกต้องทั้งหมดจ้า ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมหลายข้อ ทีนี้เรามาดูข้อเท็จจริงกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ขอเขียนเป็นข้อ ๆ ให้อ่านง่ายขึ้น มี 8 ข้อ ดังนี้
1. คำว่า ‘การตรวจคัดกรอง’ หมายถึง การตรวจตอนที่ ‘ไม่มี’ อาการ เช่น ของไทยแนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตอนอายุ 30 ปี ก็คือสำหรับคนที่ไม่มีอาการน่ะ แต่! ถ้ามีอาการผิดปกติ ก็ควรไปตรวจเลย เช่น อายุ 25 ปี มีเลือดออกทางช่องคลอด ก็รีบไปหาหมอเลยจ้า ไม่ต้องทนรออีก 5 ปีค่อยไปนะ
2. ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อันนี้ต้องมาแถลงไขในข้อต่อ ๆ ไป แต่สรุปสั้น ๆ ว่า “หากใครที่ไม่เคยใช้จิ๋มทำอะไรเลย นอกจากปัสสาวะ” เท่ากับว่า (เกือบ) ไม่เสี่ยงเลย แต่วงการหมอไม่ค่อยคุ้นชินกับการฟันธงแบบวงการหมอดูนะ ฉะนั้น ขอใช้ว่า เสี่ยงน้อยมากกกกก แล้วกัน
3. อยากแนะนำ วายร้ายตัวฉกาจเลยก็คือเชื้อไวรัส HPV ซึ่งไวรัสพวกนี้ มันมีบางสายพันธุ์ที่เป็น ‘ความเสี่ยง’ มะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งมะเร็งชนิดนี้พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทย (อันดับ 1 คือมะเร็งเต้านม) มันก็เลยสำคัญยังไงล่ะ และเมื่อพูดถึง วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ก็คือ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV เนี่ยแหละ อ่านเพิ่มเติมเรื่อง วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
4. เชื้อ HPV มันจะอยู่ในสารคัดหลั่งของร่างกาย เช่น พวกน้ำเมือกทั้งหลายใน จิ๋ม จู๋ หรือปาก ข้อสำคัญคือ ตามปกติพวกนี้ มันก็ชุ่มฉ่ำนิด ๆ อยู่แล้ว แค่ปริมาณเล็กน้อยก็ถือเป็นสารคัดหลั่งแล้วนะ ไม่ต้องถึงกับน้ำพุ่ง หรือเขื่อนแตกอะไร
5. HPV กับเรื่องเซ็กซ์เนี่ย มันก็มาจากการมีเซ็กซ์กับคนที่มี ‘เชื้อ HPV’ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางจิ๊มิ ทางปาก หรือทางทวารหนัก เช่น การสอดใส่จู๋น้อยที่จิ๋ม ก็รับเชื้อมาได้ ออรัลเซ็กซ์เราก็สามารถติดมาได้เหมือนกัน ทั้งเขาเลียน้องสาว หรือ เราออรัลเซ็กซ์เขา
6. เซ็กซ์กับคนที่มีเชื้อ คือไม่จำเป็นต้องสอดใส่เข้าไปในรูถ้ำ ก็เสี่ยงได้เหมือนกัน ใครที่ไม่เคยมีการสอดใส่ แต่เคยทำกิจกรรมลูบไล้ เสียดสีบริเวณจิ๊มิภายนอก อันนี้ก็เสี่ยงนะจ๊ะ แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย
7. รวมถึงนิ้วมือ ผักผลไม้ และของเล่นผู้ใหญ่ทั้งหลาย ก็สามารถแบ่งปันสารคัดหลั่งไปมาได้เหมือนกัน ถ้าของพวกนี้มี ‘เชื้อ HPV’ จากคนที่มีเชื้ออยู่ หากท่านใดมีกิจกรรมทางเพศด้วยสิ่งอื่น ๆ ที่บอกมา ก็โปรดรู้ว่ามันก็เสี่ยงได้เหมือนกันนะ โดยรวมถึงผู้หญิงที่มีกิจกรรมทางเพศกับผู้หญิงด้วยกันก็เสี่ยงได้เหมือนกันจ้า ได้โปรดมาตรวจเถอะ
8. ถ้าอ่าน 4-7 แล้วไม่เห็นภาพ ให้ลองจินตนาการว่า HPV คือสารสะท้อนแสง สมมติว่า ที่ปากเขามีน้ำลายสะท้อนแสง เขาเลียเรา จิ๋มเราก็จะสะท้อนแสง จากนั้นก็นัวกันไปแล้วเอาของเล่นมาจิ้ม มาคลึง ของเล่นก็สะท้อนแสงได้ เสร็จปุ๊ปเอาแตงกวาเข้าไปในช่องคลอด ช่องคลอดก็จะสะท้อนแสง และปากมดลูกก็จะสะท้อนแสงได้ สรุปว่าเสร็จกิจ ทุกส่วนของร่างกายคงสะท้อนแสงไปหมดนั่นเอง
เขียนโพสนี้ไม่ได้ต้องการให้ตกใจ แพนิคกันไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะได้รับเชื้อ HPV ไม่ได้แปลว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูกทุกรายนะ แค่มันเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จึงอยากเน้นย้ำให้ระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงกัน เพราะความสุขทางเพศมันก็ควรมาพร้อมกับความปลอดภัยด้วย
ย่อหน้านี้สำคัญมาก อย่าลืมใช้อุปกรณ์ป้องกันระหว่างมีเซ็กซ์ด้วย ถุงยาง แผ่นยาง ถุงนิ้ว รวมถึงการทำความสะอาดจู๋จิ๋ม มือ ของเล่น และผักผลไม้ ก่อนและหลังทำกิจกรรมทางเพศ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเอง และก็ยังมีวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วย อย่าลืมไปฉีด จะได้ลดความเสี่ยงติดเชื้อ HPV
ขอย้ำอีกที !!!
1.ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
2.ล้างก่อนและหลัง
3.ฉีดวัคซีน
หลายคนอาจจะเคยไปตรวจแล้วแพทย์ถามว่า “เคยมีเพศสัมพันธ์มั้ย” คำถามนี้ครอบคลุมแต่อาจจะคลุมเครือไปนิดหน่อย บางคนที่เข้าใจว่าเป็น การสอดใส่ด้วยจุ๊ดจู๋เท่านั้น อาจจะตอบไปว่า “ไม่เคยค่ะ” ซึ่งหมอบางคนก็อาจจะไม่ได้แนะนำให้ตรวจมากนัก จึงหวังว่าโพสต์นี้จะทำให้ ประเมินความเสี่ยงของตัวเองได้มากขึ้น และตัดสินใจได้ว่า ตัวเราเองควรได้รับการตรวจรึเปล่า ยังไงลองพูดคุยปรึกษากับหมอที่ดูแลเพิ่มเติมได้นะจ๊ะ
สุดท้าย หากพบผู้มีมดลูกท่านใดที่ยังมีความคิดว่า “ไม่เคยมีเซ็กซ์ เท่ากับไม่เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก” ฝากส่งต่อบทความนี้ให้อ่านกันด้วยจ้า
เพจน้องสาว